Monday, May 18, 2009

วัฒนธรรมที่ทำลายชาติและสถาบันกษัตริย์ไทย

วัฒนธรรมที่ทำลายชาติและสถาบันกษัตริย์ไทย
โพสต์โดย : piangdin
ID # 803635 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-18 18:19:17 _ ปิดข้อความ แก้ไข

ประธานาธิบดีโอบามา ผู้ซึ่งมีนโยบายค่อนข้างเป็นมิตรกับการออกกฎหมายให้ทำแท้งโดยเสรี
ภายใตักรอบอันควร ได้ถูกเชิญไปรับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิติมศักดิ์ที่มหาวิทยาลัย Notre Dame ซึ่งเป็นมหาวิทยาล้ยที่ดำเนินการบนความเชื่อ Catholic ที่เคร่งครัด จึงต่อต้านการทำ
แท้งทุกกรณี โดยมหาวิทยาลัยนี้ตั้งอยู่ที่เมืองSouthbend มลรัฐ Indiana อันเป็นหนึ่งใน
รัฐที่อยู่แถว Midwest ซึ่งได้ชื่อว่าค่อนข้างมีผู้คนมีความคิดเคร่งศาสนาและอนุรักษ์นิยม

ไม่ใช่งานง่ายเลยที่จะถูกเชิญให้ไปรับเกียรติพูดในที่ ๆ ต่อต้านนโยบายของตน แต่ประธานาธิบดี
โอบามาก็ไม่ถอย และได้ก้าวเข้าไปเสนอความคิดที่น่าฟังอย่างยิ่ง กล่าวคือ โอบามากล่าวว่า
มนุษย์เราไม่มีทางเห็นตรงกันในรายละเอียด และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะจัดการได้ง่าย แม้ว่าในเรื่อง
ที่ดูเหมือนมีความถูกผิดชัดเจน แต่เมื่อเรามองเหตุผลจากมุมมองหลาย ๆ ด้าน เราก็จะพบว่า
ทุกฝ่ายมีเหตุผล มีความเชื่อ มีความจำเป็นที่ฟังขึ้นในความคิดของพวกเขาทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่
โอบามาคิดว่าควรต้องเกิดขึ้นในภาวะแห่งความขัดแย้งนี้ คือ การพยายามเข้าใจ ให้เกียรติกัน
และไม่พยายาม "demonize" หรือป้ายภาพมารร้ายให้กับฝ่ายอื่น

สิ่งที่ผมได้เห็นมาตั้งแต่ปี 47-48 ในประเทศไทย ก็คือ วัฒนธรรมการป้ายสี และสร้างภาพมาร
ร้ายให้แก่กันและกัน เริ่มตั้งแต่สนธิ ลิ้มฯ เป็นต้นเหตุ การรับจ้างแลกผลประโยชน์และการใช้
ความเกลียดชัง อิจฉา โกรธแค้นเป็นทุน สนธิลิ้มจึงสร้างวัฒนธรรมอันน่ากลัวเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
การใช้ศัพท์ที่ทำให้เกิดภาพน่ากลัว น่าชัง น่าขยะแขยง โดยไม่มีคำอธิบายบนข้อเท็จจริง
หรือเราเรียกว่า labeling

การใช้สัญลักษณ์มือตบ อันเป็นการสร้างความรุนแรงเชิงสัญลักษณ์

การใช้สีเพื่อแบ่งข้างและทำให้กลุ่มตนมีพลังทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม

และเมื่อทำนาน ๆ เข้า ย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ มักก็เกิดผลอย่างน่ากลัว และที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือ
มันได้ลามไปทั่วสังคมไทย ผ่านสื่อที่ไม่เป็นกลางและขาดความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง
โดยมีทั้งภาพจริงและภาพตัดต่อ จนทุกวันนี้เราเชื่อสิ่งที่เห็นและได้ยินมาง่าย ๆ ไม่ได้แล้ว
เราไว้ใจกันและกันไม่ค่อยสนิทแล้ว

วัฒนธรรมอย่างว่านี้ ผมและพวกเราเองก็เลี่ยงลำบาก เพราะบนความคับแค้น บนความอยุติธรรม
บนความขยะแขยง และบนความเกลียดชังที่มันได้เกิดขึ้นจริง ๆ เราก็ไม่อยากจะข่มใจ
ไม่อยากยั้งคิด เพราะเราเห็นเต็มตา ได้ยินเต็มหู และรับรู้เต็มหัวใจว่า อีกฝ่ายมันเลวร้าย
เราก็เลยเริ่มทำตามบ้าง... วัฒนธรรม มันเป็นสิ่งที่ได้รับการปฎิบัติหรือเชื่อถือในสังคมวงกว้าง
การที่เราเริ่มเข้าไปร่วมวงสร้างวัฒนธรรม จึงทำให้มันเกิดเป็นวัฒนธรรมขึ้นมา

วัฒนธรรมอันเลวร้ายนี้ จะแก้ได้ก็ด้วยความเป็นอารยะ ความเข้าใจภาพที่กว้างและลึกกว่าแค่
ความโกรธแค้นหรือสะใจจะพาเราไปถึง แต่จะโทษใครล่ะครับ เพราะคนที่ควรจะห้ามไม่ให้เกิด
วัฒนธรรมนี้ เช่นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านในเมือง กลับทำให้เกิดเชื้อไฟเสียเอง กลับเป็นคนอยู่
เบื้องหลังการสร้างเชื้อโรคเสียเอง!!! เราไม่มีโอบามา แต่เรากลับมีคนที่คุณภาพตรงข้ามสิ่ง
ดี ๆ ของโอบามา อย่างโอบามาร์ค และคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่งทั้งหลาย ก็มิเคยมีสำนึก
ในการปกครองดูแลทิศทางของประเทศเอาเสียเลย หากในตระกูลใดมีพี่น้องลูกหลานใส่ร้าย
ป้ายสี ว่าร้ายและรุนแรงต่อกัน คนที่เป็นผู้ใหญ่ก็ควรลงมาให้ข้อคิดและตักเตือน ดังที่โอบามาทำอยู่

วันนี้ สถาบันกษัตริย์ถูกกล่าวถึงในเชิงร้ายอยู่มาก มีคนทำภาพราชวงศ์ให้ตกต่ำสุด ๆ
มีการใช้คำ วิดีโอ และรูปภาพสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้ภาพเทพ เป็นภาพ demon ขึ้นมากเรื่อย ๆ

วันนี้ วัฒนธรรมนี้กำลังทำร้ายคนไทย ประเทศไทย และแม้แต่สถาบันที่คนไทยเคยเคารพเชิดชูกันทั่วหน้า

จะโทษใคร จะคิดปรึกษากันยังไง หรือจะทำอย่างไรต่อ ก็ให้ท่านผู้เจริญด้วยปัญญาคิดและทำกันให้รอบคอบเองเถิด


โพสต์โดย : piangdin
ID # 1773257 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-18 18:31:02 _ ปิดข้อความ แก้ไข

ผมต้องออกไปธุระนอกบ้าน อาจจะไม่มีเวลาตอบกระทู้ในสามสี่ชั่วโมงนี้

แต่เป็นห่วงว่า วัฒนธรรม demonizing นี้มันแก้ยาก ตราบใดที่คนของเรา
ยังไม่มีการพัฒนาหัวใจให้กว้างและยุติธรรม และใหญ่เหนือกว่าอคติและ
อวิชชาทั้งปวง

และที่สำคัญที่สุด ตราบใดที่ผู้ปกครองที่ไร้ความเป็นธรรม ไม่คืนธรรมให้กับ
คนในสังคมที่เรียกร้องหาความเป็นธรรม

สังคมไทยเรา มาถึงทางที่เล็ก จนเกือบตัน โดยมีคนไม่กี่คนยืนเหยียบช่อง
นั้นอยู่...

ทางแก้ที่เร็วและง่ายที่สุด ก็คือ การยกขาออกไป ก่อนที่ชาวบ้านจะเอา
มีดพร้ามาเฉาะให้ล้ม....

สวัสดีครับ


โพสต์โดย : piangdin
ID # 1773273 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-18 18:40:18 _ ปิดข้อความ แก้ไข

อ้อ ลืมเอาลิ้งค์มาฝากครับ

ขออภัยที่ไม่มีภาษาไทยครับ

http://www.latimes.com/news/nationworld/nation/la-na-obama-notre18-2009may18,0,1436208.story



โพสต์โดย : piangdin
ID # 1773282 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-18 18:49:15 _ ปิดข้อความ แก้ไข

กำลังจะออกบ้านแล้วครับ

อยากฝากข้อคิดว่า สังคมที่จะเจริญก้าวหน้านั้น นอกจากจะต้องมีระบบการสร้างคน
ที่ถูกทาง เอาจริงเอาจัง และประสานกันจากหลายทาง (เช่นโรงเรียน
วัด โบสถ์ มัสยึด ครอบครัว และสื่อ เป็นต้น) ไปพร้อม ๆ กันแล้ว
สังคมที่เจริญมักมีนักคิดที่คิดกว้างกว่าสายตาผู้คน ไกลกว่าใจที่ผู้คนรับรู้
สูงกว่าความต้องการส่วนตัว และแปลก สร้างสรรค์เหนือคนธรรมดา
เราเคยมีคนอย่างท่านทักษิณ นั่นแหละคือตัวอย่างในแง่การสู้ความจน
และการแก้ปัญหาการเมือง แต่ในเมื่อระบอบใหญ่มันยังไม่ได้รับการ
แก้ไข คนคิดเหนือคนจึงหาที่อยู่ในสังคมยาก ประเทศที่เป็นมหาอำนาจ
ในประวัติศาสตร์มนุษย์ จึงเป็นประเทศที่ให้โอกาสคนคิดเหนือคน
คิดต่าง คิดสร้างสรรค์ หรือแม้แต่คิดประหลาดสุดโต่ง ได้มี
บทบาทต่าง ๆ ในสังคม

เหลียวดูสังคมไทย... แทบไม่มีหวัง แต่ก็ยังจะหวังต่อไปครับ...

สวัสดีจริง ๆ แล้วครับ


โพสต์โดย : รักสู้
ID # 1773288 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-18 18:54:38 _ ปิดข้อความ


ใครน่ะบอกว่าจะให้นักเรียนเรียนประวัติศาสตร์ ตอนนี้ท่านรู้ไหมเกิดอะไรขึ้น

เดิมทีโรงเรียนเขามีหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นวิชาสังคมศึกษา ไม่มีวิชาประวัติศาสตร์ พอดีมีโรงเรียนแกนนำปี 2551 เปิดเรียนปี 2552 สามารถจัดหลักสูตรวิชาประวัติศาสตร์ลงไปได้

แต่ผู้รับใช้บางคนกลับสั่งการให้ทุกระดับชั้น คือนักเรียนหลักสูตรเก่าเรียนประวัติศาสตร์ด้วย แล้วเดิมทีในหลักสูตรมันไม่มีประวัติศาสตร์ เขาก็บอกว่าเพิ่มคาบสอนขึ้นมา... เอ้าแล้วสอนตามผลการเรียนรู้อะไรในเมื่อหลักสูตรก็ไม่ได้บอกไว้และต้องเรียนทุกภาคเรียน ตอนนี้ครูงงกันมากครับประวัติศาสตร์มันเยอะแยะแต่ไม่มีเป้าหมายว่าสอนอะไร ใครนะทำให้วุ่นเช่นนี้


โพสต์โดย : kontaning
ID # 1773337 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-18 19:13:48 _ ปิดข้อความ

ต่างฝ่ายต่างก็อ้างสถาบันเพื่อเอามาเป็นสื่อกลางในการทะเลาะกัน ... โดยที่หารู้ไม่ว่า ต่างก็กำลังทำลายสถาบัน


โพสต์โดย : JB007
ID # 1773462 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-18 20:08:06 _ ปิดข้อความ


ความกลัวทำให้เสื่อม

และไม่มีสิ่งใดทำให้เสื่อมได้มากที่สุด

นอกจากตัวของตัวเองนั้นแล



โพสต์โดย : OMAN
ID # 1773466 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-18 20:09:57 _ ปิดข้อความ


ประเทศนี้ คำว่า "สถาบัน"
มันยึดพื้นที่ แห่งอำนาจไปหมด
และแต่ละสภาบันก็ ต่างสร้างวีรกรรม
เพื่อสถาบันของตน บางครั้งก็หยิมยืมอำนาจ
จากสถาบันข้างเคียงเอามาหาประโยชน์ตน
จนไม่มีพื้นที่สำหรับ "ประชาชน"


โพสต์โดย : Bor-Gor
ID # 1773489 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-18 20:25:31 _ ปิดข้อความ


มี demonize แล้วมี angelize ไหมครับ?

ทำให้ดูเหมือนเป็นมารร้าย ปิศาจร้ายจากขุมนรก

ก็มีทำให้ดูเหมือนเป็นเทพ เป็นเทวดาผู้ประเสริฐเลิศในปฐพี

สิ่งที่เกิดขึ้นจะไปโทษใครไม่ได้ เค้าก็ทำตัวเองกันทั้งสิ้น ก่อนเกิดวัฒนธรรมสนธิ ลิ้มทองกุล เรายังไม่มี demon&angel
ไปๆ มาๆ กลุ่มที่จะถูกทำให้เป็น demon และกลุ่มที่ยกตนเป็น angel ดันสื่อสารกับคนรับสารสลับขั้วกันเฉยเลย

angel ก็เลยกลายเป็น demon กอดคอกันฉิบหายร่วมกันในรัฐไทยที่ล้มเหลวและล้มละลาย

สงสัยว่า ณ จุดนั้น พวกเทวดาทั้งหลายจะไปสถิต ณ สรวงสวรรค์ชั้นฟ้าชั้นไหนกัน


โพสต์โดย : citystraycat
ID # 1773490 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-18 20:25:43 _ ปิดข้อความ


สวัสดีค่ะคุณเพียงดิน

พวกศักดินา สนธิ ปีย์ มาลากุล มันก็ใช้ หลักการโฆษณาชวนเชื่อแบบที่ฮิตเลอร์ใช้ แล้วก็ทำให้เยอรมันล่มจมมาแล้วเพราะเชื่อโฆษณาชวนเชื่อขอฝฮิตเล่อร์... ตอนนี้ประเทศไทยก็เจริญรอยตามอยู่ประเทศกำลังจะล่มจมในไม่ช้านี้...อยากให้คุณทักษิณซื้อเกาะได้ แล้วไปพัฒนาให้เหมือนยิวพัฒนาทะเลทรายในดินแดนปาเลสไตน์ ให้กลายเป็นประเทศที่เจริญจัง ศักดินากับสาวกมันจะได้กะอักเลือด กับพวกสาวกขี้อิจฉามันจะได้สำนึกบ้าง ว่าไล่คนเก่งมีศักยภาพไป แต่เอาฟายนักเรียนนอกทำอะไรไม่เป็นมายัดให้...ประเทศกำลังจะล่มจมแล้ว...



โพสต์โดย : 14valentine
ID # 1773626 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-18 21:40:59 _ ปิดข้อความ


สวัสดีคุณเพียงดิน
สถาบันการเมืองก็เป็นสถาบันที่ควรมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่าที่เป็นอยู่ เนื่องจากพรรคการเมืองและนักการเมืองมีหน้าที่ที่จะต้องกระจายข่าวสารทางการเมืองไปยังพี่น้องประชาชน ทั้งจากความใกล้ชิดและผูกพันกันและกันระหว่างผู้เลือกตั้งและผู้แทน แต่ในประเทศไทยพรรคการเมืองกลับไม่เห็นความสำคัญของการถ่ายทอดความรู้ทางการเมืองให้ประชาชน กลับยอมให้ประชาชนยอมรับอำนาจรัฐ ปล่อยให้ครอบงำทั้งความคิดและการปฏิบัติ เท่าที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่กล้าคิด กลัวผิดไม่กล้าเคลื่อนไหวอย่างอิสสระเพื่อต่อต้านนโยบายและการกระทำของรัฐที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้งวัฒนธรรมระบอบศักดินาอำนาจนิยมที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะเมื่ออำนาจยังอยู่ในมือของกลุ่มชนชั้นสูงและนักการเมืองที่หลงอำนาจ ทั้งยังกลุ่มสื่อสารมวลชนที่ตกอยู่ในมือของรัฐ กระจายข่าวสารที่บิดเบือนโจมตีผู้ที่คัดค้านรัฐ ถึงแม้ขณะนี้เรามีสถาบันเสื้อแดงที่กล้าออกมาตอบโต้เรียกร้องความถูกต้องก็ตาม แต่ยังมีคนส่วนใหญ่ ที่ยังคงเมินเฉยกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นรอบๆตัว ยังถือเป็นเรื่องที่ไกลตัว ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับตัวเองโดยตรง เพราะโดยนิสัยคนไทยไม่ชอบการรวมกลุ่มหรือต้องรับการบังคับ เมื่อเป็นเช่นนี้ย่อมเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงต่อการรวมพลังทางการเมืองเพื่อให้บรรลุความมุ่งหมาย โดยรวมแล้วนักการเมืองที่มีจริยธรรม และคุณธรรมที่ต้องเข้ามาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงยังคงขาดแคลนหนักในสังคมปัจจุบัน


โพสต์โดย : piangdin
ID # 1773802 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-18 23:33:48 _ ปิดข้อความ แก้ไข


สวัสดีครับ ทุก ๆ ท่าน
แวะมาอ่านด้วยความขอบคุณครับ

สรุปบทเรียนนี้ว่า
ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว
ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว
โยนบาปให้ท่าน บาปนั้นถึงตัว



โพสต์โดย : แตแต้แว๊ด
ID # 1773862 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-19 00:05:07 _ ปิดข้อความ


สวัสดีครับพี่เพียงดิน


โพสต์โดย : piangdin
ID # 1773282 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-18 18:49:15 _ ปิดข้อความ


กำลังจะออกบ้านแล้วครับ

อยากฝากข้อคิดว่า สังคมที่จะเจริญก้าวหน้านั้น นอกจากจะต้องมีระบบการสร้างคน
ที่ถูกทาง เอาจริงเอาจัง และประสานกันจากหลายทาง (เช่นโรงเรียน
วัด โบสถ์ มัสยึด ครอบครัว และสื่อ เป็นต้น) ไปพร้อม ๆ กันแล้ว
สังคมที่เจริญมักมีนักคิดที่คิดกว้างกว่าสายตาผู้คน ไกลกว่าใจที่ผู้คนรับรู้
สูงกว่าความต้องการส่วนตัว และแปลก สร้างสรรค์เหนือคนธรรมดา
เราเคยมีคนอย่างท่านทักษิณ นั่นแหละคือตัวอย่างในแง่การสู้ความจน
และการแก้ปัญหาการเมือง แต่ในเมื่อระบอบใหญ่มันยังไม่ได้รับการ
แก้ไข คนคิดเหนือคนจึงหาที่อยู่ในสังคมยาก ประเทศที่เป็นมหาอำนาจ
ในประวัติศาสตร์มนุษย์ จึงเป็นประเทศที่ให้โอกาสคนคิดเหนือคน
คิดต่าง คิดสร้างสรรค์ หรือแม้แต่คิดประหลาดสุดโต่ง ได้มี
บทบาทต่าง ๆ ในสังคม

เหลียวดูสังคมไทย... แทบไม่มีหวัง แต่ก็ยังจะหวังต่อไปครับ...


ท่อนนี้กล่าวได้ถูกใจจริงๆเลยครับ

นักคิดที่สร้างสรร จะเกิดขึ้นมากมาย

ในประเทศเสรีนิยม

แต่ระบอบการปกครองโบราณ

ขัดขวาง ปิดกั้นความคิด และจินตนาการ

แม้แต่ในโรงเรียนที่ไม่ได้สนับสนุนให้เด็กๆหัดคิดเอง


โพสต์โดย : piangdin
ID # 1773881 - โพสต์เมื่อ : 2009-05-19 00:14:29 _ ปิดข้อความ แก้ไข


สวัสดีครับ น้อง ตตว.
หากผู้ปกครองประเทศ คิดถึงประเทศมากกว่าการที่จะรักษาอำนาจในการปกครอง
เขาจะสร้างคนให้มีคุณภาพครับ

ตรงกันข้าม หากเขาคิดเพียงจะรักษาอำนาจ เขาจะทำสิ่งอื่นเพื่อชะลอ
หรือดัดการเติบโตของพลเมืองให้เป็นเหมือน บอนไซ ครับ
และเราอาจจะเรียกลัทธิการเมืองการปกครองแบบไทยว่า

ระบอบประชาบอนไซ มากกว่าระบอบประชาธิปไตยครับ

No comments:

Post a Comment