บ่นคนเดียว กับความอึดอัดที่ถูกยัดเยียดและอุดปาก และเหยียบย่ำสิทธิความเป็นคน

I have been overwhelmed by the incredible things that the ruling elites in Thailand have said, publicized, and done. Their shameless deeds against democracy have gone far beyond what I could ever have imagined three years ago. Let me just talk about the very issue about human rights, in particular censorship in Thailand.

I was born a free boy roaming the ricefields on the buffalo back, singing as louldly as I wanted, going in and out of any house in my rural village in Northern Thailand, and growing up with freedom and approval from my parents and people around me. So, censorship is truly a foreign notion to my free soul. I was too young to understand the political issues and the oppressive system that had perpetuated the vicious cycle that brought about the massacre in Thailand during the 60's-70's. Back then, there were no TVs, no newspapers, and nothing much beyond the peaceful, submissive, struggling images of people in my community and the little known world outside my district.

Growing up, I started to understand that there are so many restrictions; some sensible, but others ridiculous. Largely, I tried to understand and comply with. However, the more I learned about the structural violence in the form of suppressive propaganda, brainwashing in order to silence the people's voices, social practices that take away people's rights to be politically recognized and economically rewarded, and so on. None of those truly got too strong until recently, during the tyrannical ruling of the ruling elites manipulating or directing the administration of Abhisit government.

The below message was erased only seconds after the submission, simply because it was titled with "The only way the Chakri Dynasty will survive"! I will find time to translate it into English later.


ทางรอดเดียวของราชวงศ์จักรี

เมื่อพูดถึงคนผิดและการจะต้องนิรโทษกรรม
คนผิดมันไล่มาตั้งแต่คนทำการรัฐประหาร คนลงชื่อสนอง
คนที่ทำงานรับใช้ คมช. คนที่ทำผิดกฎหมายทุกอย่างแต่ใช้เส้น
เช่น ยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน ปิดถนน ยิงประชาชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่
คนที่บังอาจยุบพรรคการเมืองของประชาชน คดีหมิ่น
คดีความทั้งหมดของคุณทักษิณและครอบครัว
คนที่ใช้อำนาจโดยมิชอบ (รวมทั้งศาลด้วย) และล่าสุดก็ต้องนับ
เอาพวก .ใสเสื้อสีแดง .ที่ก่อการเผารถและปิดถนน และที่สำคัญที่สุด
คือนายกทรราช และพรรคพวกเบื้องหลังการสั่งฆ่าประชาชน
และองคมนตรีบางคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตรกร ทำผิดหน้าที่
ทำผิดรัฐธรรมนูญ และเป็นทรราช

ที่ว่ามาเนี่ย หากยกให้ไม่ผิดทั้งกระดาน มันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีใคร
ฝ่ายไหนพอใจทั้งหมด หากจะยกเว้นเป็นบางราย มันก็ไม่จบ
งานนี้ ต้องยกผลประโยชน์ให้จำเลยครับ ยอมใจกว้างแล้วเริ่มใหม่
คือทางเดียวที่จะทำให้เราไม่ต้องมีสงครามกลางเมือง
หากมาร์คคิดจะเอาดีใส่ตัว ทิ้งชั่วให้คนอื่นอีกละก้อ
ผมบอกแล้ว ว่า เตรียมตายโหงทั้งคณะ และฉิบหายกันทั้งชาติ

และเมื่อนั้นมันก็จะก่อเป็นสงครามกลางเมือง
ซึ่งหนี้เลือดมันไม่หยุดง่าย ๆ และจะเป็อย่างนั้นไปตราบเท่าลูกหลาน
แล้วไทยเราก็จะเป็นเหมือนประเทศที่เราไม่อยากแม้แต่ไปท่องเที่ยว
หรือคนไม่ปลอดภัยแม้แต่จะไปเยี่ยมญาติต่างอำเภอ หรือไปเที่ยวต่างจังหวัด
ความยากจนวิบัติ มันจะเป็นเหมือนคำสาปไปชั่วลูกหลาน

และที่สำคัญที่สุด เมื่อเกิดสงครามกลางเมืองแล้ว
ราชวงศ์จักรี ก็จะต้องสิ้นสลายไป เพราะหาประโยชน์อันใดไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายตาของคนที่ต่อสู้เพราะคิดว่า ตนไม่มีเส้น และไม่ได้รับความเป็นธรรม
อันเป็นสาเหตุของการลุกขึ้นมาสู้ นับตั้งแต่การรัฐประหาร 19 กันยายน 49

เราแทบไม่เหลือทางเลือกอื่นแล้วครับ
นอกจากล้มกระดานแล้วเริ่มต้นกันใหม่บนกติกาที่
เป็นประชาธิปไตย คือ ยึดเอาเสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ ภายใต้นิติรัฐ และ
การไม่ทำการใด ๆ ที่ก้าวก่ายอำนาจอธิปไตยของประชาชน โดยผู้ใดก็ตาม

It's truly too much for me to write about everything wrong that the Abhisit administration has done over the past few months and his party, along with the destructive allies of it, have done since the coup in September 2006.
For all the accounts regarding ridiculous censorships in Thailand, please visit
http://facthai.wordpress.com/